อย่างที่ทราบกันดีว่า การทำ shipping จีน นั้น มีความจำเป็น และมีความเกี่ยวข้องกับกรมศุลกากรเป็นอย่างมาก ฉะนั้น หากคุณคิดจะทำ shipping จีน แล้วล่ะก็ การลงทะเบียนกับกรมศุลกากรจึงเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรเลี่ยง และเลี่ยงไม่ได้
บทความนี้เราจึงได้รวบรวมเอกสาร และวิธีการการลงทะเบียนกับกรมศุลกากรสำหรับการทำ shipping จีน มาฝากกัน ซึ่งจะมีเอกสาร และวิธีการการลงทะเบียนแบบใดบ้างนั้น ต้องตามมาดูกันเลย
เอกสารที่ใช้ในการลงทะเบียนกับกรมศุลกากร
- เอกสารที่ใช้ลงทะเบียนกับกรมศุลกากร สำหรับนิติบุคคล
- บัตรประจำตัวประชาชน (ลงนามตามหนังสือรับรอง) : กรณีคนไทย
- สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) หรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวพร้อมสำเนาทะเบียนบ้าน : กรณีบุคคลต่างประเทศ
- หนังสือรับรองนิติบุคคล (อายุหนังสือไม่เกิน 3 เดือน)
- ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ. 20)
- บอจ. 3 (แบบแสดงรายการจัดตั้งบริษัท)
- บอจ. 5 (สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น)
- แบบคำขอการลงทะเบียนของกรมศุลกากร
- หนังสือมอบอำนาจ (กรณีผู้มีอำนาจลงนามตามหนังสือรับรองไม่สามารถดำเนินการลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง)
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นกระทำการแทน)
- เอกสารที่ใช้ลงทะเบียนกับกรมศุลกากร สำหรับบุคคลธรรมดา
- บัตรประจำตัวประชาชน (กรณีคนไทย)
- สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) หรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวพร้อมสำเนาทะเบียนบ้าน : กรณีบุคคลต่างประเทศ
- แบบคำขอการลงทะเบียนของกรมศุลกากร
- หนังสือมอบอำนาจ (กรณีผู้มีอำนาจลงนามตามหนังสือรับรองไม่สามารถดำเนินการลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง)
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นกระทำการแทน)
ขั้นตอนการลงทะเบียนกับกรมศุลกากร
- ลงทะเบียนเพื่อขอเป็นผู้นำเข้าสินค้ากับกรมศุลกากร (ลงทะเบียนได้ทั้งระบบออนไลน์หรือติดต่อด้วยตนเอง)
- ยื่นแบบคำขอ และแบบแนบ พร้อมหลักฐานประกอบ
- รอเจ้าหน้าที่ออกใบตอบรับการลงทะเบียน
- เมื่อถูกต้องเรียบร้อยดีแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการบันทึกข้อมูล
- กรมศุลกากรจัดเก็บเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document)
- หากข้อมูลถูกต้อง และไม่มีการแก้ไข ใช้ระยะเวลาดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 30 นาที
ทำไมคนที่ทำ shipping จีน ถึงควรลงทะเบียนกับกรมศุลกากร
การทำ shipping จีน หรือการนำเข้าสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะเพิ่มความอุ่นใจและปลอดภัยได้มากกว่าการนำเข้าแบบบอื่นๆ เพราะเอกสารการนำเข้าทุกใบ ออกโดยกรมศุลกากร สามารถใช้เป็นหลักฐานในการนำเข้าได้อย่างถูกต้อง รองรับได้ทั้งการนำเข้าทั้งปริมาณน้อยและมาก ปลอดภัยไร้ความเสี่ยง โดยเฉพาะเมื่อนำเข้าสินค้าเพื่อนำมาจำหน่ายต่อ ที่สำคัญ หมดห่วง ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลังว่าจะถูกตรวจสอบเมื่อไหร่ ที่สำคัญหากมองในระยะยาวแล้ว ถือว่าประหยัดและคุ้มค่ากว่า ไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกริบของหรือถูกปรับในภายหลังนั่นเอง